“หมึกเทียบเท่า” หมึกสีปริ้นเตอร์ราคาประหยัด ลดต้นทุน (และคุณภาพ?)

ในยุคเศรษฐกิจปัจจุบัน การลดต้นทุน ถือเป็นสิ่งจำเป็นของทุกองค์กร หรือแม้แต่ตัวเราเอง การลดต้นทุนยังช่วยให้เราประหยัดได้ในระดับหนึ่ง แต่การประหยัดบางครั้งก็มาพร้อมกับคุณภาพที่ปรับลดลง ในกรณีของ “ปริ้นเตอร์” ก็ไม่แตกต่างกันเลย เพราะในอุตสาหกรรมเครื่องพิมพ์ ปัจจุบัน ก็มีทั้งหมึกแท้ และหมึกเทียม หรือที่เราเรียกกันว่าหมึกเทียบเท่า ซึ่งบทความนี้เราจะขอหยิบเอาเรื่องราวของหมึกเทียบเท่ามานำเสนอ

หมึกเทียบเท่าคืออะไร ?
หมึกเทียบเท่า คือหมึกเทียม ที่มีจุดเด่นในเรื่องของราคาที่ถูกกว่าหมึกแท้มาก แต่คุณภาพก็เป็นไปตามราคา และถึงแม้คุณภาพของหมึกที่ดูแล้วใกล้เคียงกับหมึกแท้ แต่เมื่อนำเอาผลงานจากหมึกเทียบเท่า มาวางคู่กับผลงานจากหมึกแท้ เราจะสามารถแยกได้ทันทีว่า ผลงานชิ้นไหนมาจากหมึกแท้และเทียม สีบนภาพที่มาจากหมึกเทียบเท่าค่อนข้างจะเพี้ยนไปพอสมควร โดยหมึกเทียบเท่าในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ “ตลับหมึกเทียบเท่าแบบ Remanufactured” และ “ตลับหมึกเทียบเท่าแบบ Compatible”

ตลับหมึกเทียบเท่าแบบ Remanufactured และ ตลับหมึกเทียบเท่าแบบ Compatible

1. ตลับหมึกเทียบเท่าแบบ Remanufactured (ตลับหมึกมือ2) : คือการนำตลับหมึกของแท้ที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ โดยนำมาทำความสะอาด และตรวจสอบชิ้นส่วน เพื่อเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสื่อมสภาพออก และบรรจุหมึกเทียมเข้าไป โดยชิ้นส่วนที่สำคัญที่สุดคือ “ชิป” (Chip) ตลับหมึก Remanufactured เป็นตลับหมึกที่ค่อนข้างปลอดภัยกว่าเมื่อเทียบกับตลับหมึก Compatible และมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับตลับหมึกแท้มากกว่า

ชิป (Chip) : ระบบขับเคลื่อนระหว่างหมึกกับเครื่องปริ้นเตอร์ ซึ่งหากไม่มีก็จะไม่สามารถพิมพ์งานได้ ชิปเป็นชิ้นส่วนที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน โอกาสเสียหายเกิดได้สูงทั้งจากก่อนกระบวนการผลิต หรือหลังกระบวนการผลิต ซึ่งเราจะทราบได้ว่าชิปเสียหรือไม่ ก็ตอนที่เรานำมันใส่เครื่องปริ้นเตอร์เข้าไปแล้ว และแน่นอนว่า ไม่ว่าจะตลับหมึกแท้หรือตลับหมึกเทียบเท่าก็อาจพบปัญหาเครื่องไม่อ่านตลับหมึกได้เหมือนกัน แต่วิธีการแก้ไขปัญหาของผู้ขายหมึกแท้กับหมึกเทียบเท่านั้นต่างกันแน่นอน โดยถ้าเป็นตลับหมึกแท้ทางผู้ขายก็สามารถทำการเปลี่ยนตลับใหม่ให้ได้เลย ส่วนตลับหมึกเทียบเท่า อาจต้องใช้ทักษะของผู้ใช้งานในการเปลี่ยนชิปบน ตลับหมึกด้วยตัวเอง หรือไม่ก็ต้องซื้อหมึกตลับใหม่มาทดแทน

2. ตลับหมึกเทียบเท่าแบบ Compatible : เป็นตลับหมึกที่สร้างขึ้นใหม่ โดยเลียนแบบตลับหมึกของแต่ละยี่ห้อ ตลับหมึก Compatible เป็นทางเลือกที่ค่อนข้างเสี่ยงมากกว่าตลับหมึก Remanufactured หากเราเจอตลับหมึกที่ชิ้นส่วนไม่มีคุณภาพ นอกจากตัวผลงานจะออกมาไม่ดีแล้ว เราอาจพบการรั่วไหลของตัวหมึก ซึ่งนั่นหมายความว่านอกจากชิ้นงานจะเสีย เราอาจต้องเสียโต๊ะ เสียพรม หรือตัวตลับหมึกอื่นๆ ไปด้วย ที่สำคัญที่สุด เครื่องปริ้นเตอร์ของเราก็มีโอกาสที่จะเสียหายไปเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นการเลือกซื้อตลับหมึกเทียบเท่าแบบ Compatible จึงไม่ควรซื้อเพราะแค่ราคาที่ถูกกว่าเพียงอย่างเดียว แต่เรายังต้องดูไปถึงขั้นตอนการผลิต วัสดุที่ใช้ หรือผู้ผลิตด้วย ว่ามีคุณภาพน่าเชื่อถือหรือไม่

ตลับหมึกเทียบเท่า กับการใช้งาน…

หมึกเทียบเท่าค่อนข้างตอบโจทย์กับกลุ่มบริษัท สำนักงาน ที่มีการใช้เครื่องปริ้นเตอร์เป็นประจำ ต้องเปลี่ยนตลับหมึกค่อนข้างบ่อย หรือกลุ่มที่ไม่ต้องการเน้นคุณภาพของงานพิมพ์ การใช้หมึกเทียบเท่าจึงค่อนข้างตอบโจทย์และลดต้นทุนลงมาได้เป็นจำนวนมาก โดยถ้าเน้นไปที่งานด้านเอกสารแล้ว หมึกเทียบเท่าอาจตอบโจทย์ด้านนี้ แต่ถ้าเป็นงานสื่อสิ่งพิมม์ หรือการปริ้นรูปภาพ การใช้หมึกเทียบเท่าจะทำให้คุณภาพของตัวงานตกลงเป็นอย่างมาก

เปรียบเทียบคุณภาพงานพิมพ์ระหว่างหมึกแท้และหมึกเทียบเท่า

ทั้งนี้ในปัจจุบัน มีเจ้าของแบรนด์หลายๆ เจ้า เริ่มทำให้ตลับหมึกของตัวเอง ไม่ให้สามารถนำกลับมาทำเป็นตลับหมึกมือ 2 หรือ ตลับหมึก Remanufactured ได้ โดยการใช้เทคนิค Killer Chip ที่จะตัดการทำงานของชิปในตัวตลับหมึกหลังการใช้งานไปแล้ว (แต่ก็มีผู้ผลิตหมึกเทียบเท่าบางราย ที่มีวิธีกู้คืนชิปกลับมาได้แล้วเช่นกัน)

อย่างไรก็ตาม การใช้หมึกเทียบเท่าแบบ Remanufactured หากมองโดยละเอียด นอกจากจะช่วยลดต้นทุนให้แก่เราได้เป็นจำนวนมากแล้ว หมึกเทียบเท่าแบบ Remanufactured ยังเป็นเหมือนการนำสิ่งที่ใช้แล้วกลับมารีไซเคิลใหม่ ซึ่งถือเป็นทั้งการช่วยเหลือโลก และสิ่งแวดล้อมรูปแบบหนึ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกหมึกเทียบเท่ามาใช้งาน ตัวเราก็ต้องรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ด้วยเช่นกัน กับความเสี่ยงที่เรียกว่าคุณภาพ ที่บางทีต้นทุนที่ลดลง อาจไม่คุ้มกับคุณภาพที่ด้อยลงตามไปด้วย

Similar Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *